ค้นหา
ภาษาไทย
สินค้าตามประเภท
    เมนู ปิด
    กลับไปทั้งหมด

    ฟิล์มยืดพันพาเลทคืออะไร ผลิตมาจากวัสดุประเภทใด

    ฟิล์มยืดพันพาเลท ผลิตมาจากวัสดุประเภทใด ใช้ในอุตสาหกรรมใดบ้าง ปัจจุบันฟิล์มที่ใช้ในการพันพาเลทนั้นได้เข้ามามีบทบาทในขั้นตอนขนส่งและโลจิสติกส์กันมากขึ้น โดยเป็นการนําฟิล์มยึดมาใช้ กับสินค้าอุตสาหกรรมเพื่อรวมสินค้าให้เป็นหน่วยเดียวกัน รวมไปถึงการต่อรัดสินค้าบนพาเลทเพื่อการลําเลียงขนส่ง ซึ่งการใช้ฟิล์มพันพาเลทนั้นมีประโยชน์ในการป้องกันสิ่งปนเปื้อนเช่น ฝุ่นละออง สิ่ง สกปรก หรือไอน้ํา ช่วยรวมสินค้าเล็ก ๆ หลาย ๆ หน่วยเป็นหน่วยใหญ่เพื่อความสะดวกในการขนส่ง นอกจากนี้ยังป้องกันการตกหล่นของสินค้าที่อยู่บนพาเลทขณะที่ขนส่งได้อีกด้วย แล้วฟิล์มยึดที่ใช้ พันพาเลทคืออะไร ผลิตมาจากวัสดุใดบ้าง

    ฟิล์มยึดเป็นพลาสติกประเภทหนึ่งที่มีคุณสมบัติเฉพาะตัวก็คือมีความเหนียวและยืดหยุ่นสูง โดยฟิล์มยืดนี้จะสามารถเกาะติดกันเองได้เมื่อทําการดึงฟิล์มให้ยืดออกมา จึงทําให้สะดวกในการใช้ห่อรัดสินค้า โดยที่ไม่ต้องใช้วัสดุอื่น ๆ มาเพื่อติดยึดฟิล์มยืดอีก ซึ่งเม็ดพลาสติกที่นิยมนํามาผลิตเป็นฟิล์มยืดก็คือ LDPE, LLDPE, EVA และ PVC โดยในขั้นตอนการผลิตนั้นจะมีการใส่สารเติมแต่ง เช่น สารเกาะ ติด (cling agent) เพื่อช่วยให้ฟิล์มสามารถยึดเกาะติดกันได้ดีเมื่อนํามาใช้ห่อสินค้า มีการใส่สารป้องกันการเกิดออกซิเดชันเพื่อป้องกันการเสื่อมสภาพของพลาสติกในระหว่างการผลิต นอกจากนี้ยังมี การเติมสารอื่น ๆ เพื่อการใช้งานเฉพาะอย่าง เช่น สารป้องกันการเกาะติด (antiblock agent) เพื่อป้องกันม้วนฟิล์มเกาะติดกันแน่นจนเกินไป สารป้องกันรังสีอัลตราไวโอเลต (UV inhibitor) สําหรับยืดอายุของฟิล์มที่ใช้งานภายนอกอาคารที่ต้องเจอแสงแดดตลอดเวลา เป็นต้น

    ในการใช้ฟิล์มยึดเพื่อห่อสินค้าหรือใช้ฟิล์มยึดเพื่อพันพาเลทนั้นสามารถทําได้โดยง่าย สามารถทําได้ทั้งการห่อด้วยมือหรือจะใช้เครื่องมือในการต่อก็ได้ โดยในการใช้ฟิล์มพันพาเลทนั้นส่วนใหญ่จะใช้ เครื่องมือเข้ามาช่วยในการห่อสินค้าเนื่องจากสินค้าส่วนใหญ่นั้นมีปริมาณมากและต้องการความรวดเร็วในการห่อนั่นเอง ในการเลือกใช้ฟิล์มยืดนั้นจะต้องเลือกให้เหมาะสมกับการใช้งาน ซึ่งคุณสมบัติที่ สําคัญของฟิล์มยืดนั้นจะต้องประกอบไปด้วย ความสามารถในการยึดตัว (stretchability) แรงยึด (stretchforce) ความยืดหยุ่น (elasticity) ความสามารถในการต้านแรงดึง (breaking strength) อัตราการซึมผ่านของไอน้ํา (water vapor transmission rate) และอัตราการซึมผ่านของก๊าช (gas transmission rate) ซึ่งสมบัติต่าง ๆ เหล่านี้ก็จะนํามาใช้ในกรณีของผลิตภัณฑ์ ที่แตกต่างกันออกไป เช่นในการห่อสินค้าเพื่อการขายปลีกอย่างพวกอาหารบรรจุในถาดพลาสติก ก็มักจะใช้ฟิล์มยืดชนิด PVC และ PP เนื่องจากมีความใสทําให้มองเห็นสินค้าได้อย่างชัดเจนและไม่ จําเป็นต้องมีความเหนียวมากนัก สําหรับในกรณีของการห่อผลิตภัณฑ์เพื่อรวมหน่วย ที่เอาไว้เพื่อการขนส่งนั้นก็มักจะใช้ฟิล์มชนิดที่เป็น PE ทั้งแบบความหนาแน่นต่ํา (low density PE, LDPE) และ แบบความหนาแน่นต่ําเชิงเส้นตรง (linear low density PE, LLDPE) โดยเฉพาะฟิล์มแบบ LLDPE ที่เริ่มได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากมีความแข็งแรงและการยึดตัวที่สูงกว่าฟิล์ม ชนิดอื่น ๆ 

     

     

    การเลือกฟิล์มยึดนั้นต้องพิจารณาถึงปัจจัยต่าง ๆ ด้วย ดังนี้

    • อุณหภูมิ

    โดยทั่วไปแล้วภายใต้สภาวะอากาศปกติ ฟิล์มยึดแบบ LDPE, EVA และ LLDPE นั้นจะสามารถรักษาแรง+อรัดไว้ได้ 60-65% ของแรงที่ใช้ห่อรัดเริ่มแรก ส่วนฟิล์ม PVC นั้นสามารถรักษาไว้ได้เพียง 25% ถ้าหากอยู่ในอุณหภูมิที่สูง ฟิล์มยืดที่ห่อรัดผลิตภัณฑ์ก็จะเกิดการคลายตัว ส่วนที่อุณหภูมิต่ําก็จะทําให้ความเหนียวและการยึดตัวของฟิล์มนั้นลดลง ดังนั้นฟิล์มยึดส่วนใหญ่จึงไม่ควรนํามาใช้งาน ที่อุณหภูมิในช่วง 30 - 54 องศาเซลเซียส

    • ความชื้น

    ความชื้นที่สูงนั้นจะทําให้การเกาะติดของฟิล์มยืดดีมากยิ่งขึ้น อันเนื่องมากจากสารที่เติมลงไปเพื่อให้ฟิล์มเกาะติดกันทํางานได้ดีในที่มีความชื้นสูง เพราะจะดูดความชื้นจากบรรยากาศเข้าไปทําให้ฟิล์มเกาะ ตัวกันได้ดี ดังนั้นการใช้งานฟิล์มยืดในบริเวณที่มีความชื้นสูงจึงมักเกิดปัญหาในการแยกฟิล์มให้ออกจากกันได้ยากมากขึ้น

    • ฝุ่นละอองและสิ่งสกปรก

    ฝุ่นละอองและสิ่งสกปรกที่เข้ามาเกาะติดที่ผิวฟิล์มนั้นจะทําให้คุณสมบัติการเกาะติดกันของฟิล์มลดลงไป ดังนั้นถ้าต้องมีการใช้งานฟิล์มยึดในที่มีฝุ่นละอองหรือสิ่งสกปรกเยอะ ๆ จึงควรที่จะมีการใช้กาว ความร้อน หรือการผูกรัดเข้ามาเพื่อช่วยให้ฟิล์มสามารถยึดติดกันได้ดีมากยิ่งขึ้น

    • อุปกรณ์หรือเครื่องมือในการห่อรัด

    อุปกรณ์หรือเครื่องมือที่ใช้ในการต่อรัดก็เป็นอีกองค์ประกอบสําคัญในการเลือกคุณสมบัติของฟิล์มยึดที่จะนํามาใช้งาน เช่นถ้าหากใช้เครื่องพันฟิล์มแบบจานหมุน ก่อนจะทําการต่อรัดก็ต้องทราบขนาด และน้ําหนักของสินค้าตัวที่ใหญ่ที่สุดที่จะทําการพันเสียก่อน รวมไปถึงลักษณะของสินค้าที่จัดเรียงบนพาเลท เช่น รูปทรงและความมั่นคงในการเรียงซ้อนกันได้ ความแข็งแรงในการรับแรงกด ก็เป็นอีก ปัจจัยสําคัญในการเลือกใช้ฟิล์มยึด โดยผลิตภัณฑ์ที่มีน้ําหนักเบาและมีรูปทรงสม่ําเสมอนั้นจะสามารถต่อรัดได้ง่ายกว่าและใช้ฟิล์มยึดในปริมาณที่น้อยกว่า ส่วนผลิตภัณฑ์ที่มีน้ําหนักมากและมีรูปทรงที่ไม่ สม่ําเสมอ หรือมีส่วนที่แหลมคมยื่นออกมา หรือมีความเป็นเหลี่ยมมุม การเลือกใช้ฟิล์มยืดก็ต้องเลือกแบบที่มีความเหนียวสามารถป้องกันการที่มทะลุได้เป็นอย่างดี หรืออาจป้องกันโดยการใช้วัสดุอื่น ๆ เข้ามาช่วย เช่น การใช้โฟมขึ้นรูปหรือแผ่น กระดาษลูกฟูกนํามาห่อหุ้มตรงเหลี่ยมมุมก่อนการพันด้วยฟิล์มยึด

    จะเห็นได้ว่าฟิล์มยืดที่ใช้พันพาเลทนั้นก็มีให้เลือกใช้ตามความเหมาะสมในการใช้งาน ดังนั้นก่อนที่จะเลือกใช้ฟิล์มพันพาเลทก็ควรทราบถึงชนิดและลักษณะของสินค้า รวมไปถึงสภาพแวดล้อมในการเก็บ รักษาและในระหว่างขนส่ง ทั้งนี้ก็เพื่อให้ง่ายต่อการเคลื่อนย้ายและป้องกันรักษาสินค้าให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์ที่สุดก่อนถึงมือผู้บริโภคนั่นเอง

     

    สนใจสั่งซื้อ ฟิล์มยืด (Stretch Film)  สามารถกดดูได้ตามลิ้งค์นี้เลยค่ะ https://www.wetapestore.com/th/stretch-film

    ขอขอบคุณข้อมูลดีๆจาก : https://www.watanabhand.co.th/ฟิล์มยืดพันพาเลท/

     

    ความคิดเห็น
    แสดงความคิดเห็น ปิด
    *