หมวกนิรภัย

อุปกรณ์ป้องกันศีรษะ (Head Protection) สวมไว้เพื่อป้องกันศีรษะจากการถูกชน หรือกระแทก หรือวัตถุตกจากที่สูง กระทบต่อศีรษะ ได้แก่ หมวกนิรภัย มี 2 ชนิด คือ ชนิดที่มีขอบหมวกโดยรอบ และชนิดที่มีเฉพาะกระบังด้านหน้า

หมวกนิรภัย แบ่งเป็น 4 ประเภท ตามคุณสมบัติการใช้งาน 

• ประเภท A เหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไป เช่น งานก่อสร้าง งานอื่นเพื่อป้องกันวัตถุ หรือของแข็งหล่นกระแทกศีรษะ วัสดุที่ใช้ทำหมวกประเภทนี้เป็นพลาสติก หรือไฟเบอร์กลาส
• ประเภท B เหมาะสำหรับการใช้งานที่เกี่ยวข้องกับสายไฟแรงสูง วัสดุที่ใช้ทำหมวกคือ วัสดุสังเคราะห์ประเภทพลาสติก และไฟเบอร์กลาส
• ประเภท C เหมาะสำหรับงานที่ต้องทำในบริเวณท่มีอากาศร้อน วัสดุทำจากโลหะ ไม่เหมาะใชักับงานเกี่ยวข้อง กับประแสไฟฟ้า
• ประเภท D เหมาะสำหรับงานดับเพลิง วัสดุที่ใช้ทำหมวก เป็นอุปกรณ์วัสดุสังเคราะห์ประเภทพลาสติก และไฟเบอร์กลาส

ข้อควรปฏบัติในการใช้หมวกนิรภัย

• ตรวจสภาพความเรียบร้อยของหมวก ก่อนใช้งาน ถ้าไฃชำรุดไม่ควรนำมาใช้ เมื่อใช้งานแล้ว ควรมีการทำความสะอาดเป็นระยะ ด้วยน้ำอุ่นและสบู่ ขณะล้างควรถอดส่วนประกอบออกทำความสะอาด ผึ่งให้แห้ง แล้วจึงประกอบเข้าไปใหม่ ห้ามทาสีหมวกใหม่ เพราะจะทำให้ประสิทธิภาพในการต้านแรงไฟฟ้า และแรงกระแทกลดต่ำลง ไม่วางหมวกนิรภัยไว้กลางแดด หรือที่ที่มีอุณหภูมิสูง เพราะจะทำให้อายุการใช้งานสั้นลง

หมวกนิรภัยเป็นอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคลที่มีความสำคัญในการป้องกันศีรษะจากการบาดเจ็บในกรณีเกิดอุบัติเหตุหรือการกระแทกในสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นในงานก่อสร้าง ขับขี่รถจักรยานยนต์ หรือการเล่นกีฬาบางประเภท ข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับหมวกนิรภัยมีดังนี้:

คุณสมบัติของหมวกนิรภัย

1. วัสดุ: ทำจากวัสดุที่มีความทนทานและน้ำหนักเบา เช่น พลาสติก ABS, โพลีคาร์บอเนต, และไฟเบอร์กลาส
2. การดูดซับแรงกระแทก: มีชั้นวัสดุที่ช่วยดูดซับแรงกระแทก เช่น โฟม EPS (Expanded Polystyrene) เพื่อป้องกันศีรษะจากการกระแทก
3. การระบายอากาศ: ออกแบบให้มีช่องระบายอากาศเพื่อความสบายขณะสวมใส่ ลดความร้อนและความอับชื้น
4. สายรัดและระบบล็อค: มีสายรัดคางและระบบล็อคที่ปรับได้ เพื่อให้หมวกนิรภัยอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมและมั่นคง
5. มาตรฐานความปลอดภัย: ต้องผ่านการทดสอบและได้รับการรับรองตามมาตรฐานความปลอดภัย เช่น มาตรฐาน CE, ANSI, และ ASTM

ประเภทของหมวกนิรภัย

1. หมวกนิรภัยก่อสร้าง: ออกแบบมาเพื่อป้องกันศีรษะจากการตกลงมาของวัตถุและการกระแทกในงานก่อสร้าง มักมีขอบหมวกกว้างเพื่อป้องกันแดดและฝน
2. หมวกนิรภัยรถจักรยานยนต์: ออกแบบมาเพื่อป้องกันการบาดเจ็บจากการกระแทกขณะขับขี่รถจักรยานยนต์ มักมีแผ่นบังหน้าเพื่อป้องกันลมและสิ่งสกปรก
3. หมวกนิรภัยกีฬา: ใช้ในการเล่นกีฬาต่าง ๆ เช่น จักรยาน สเก็ตบอร์ด และปีนเขา เพื่อป้องกันการบาดเจ็บจากการล้มและการกระแทก

การใช้งานและการดูแลรักษา

1. การเลือกขนาด: ควรเลือกหมวกนิรภัยที่มีขนาดพอดีกับศีรษะ ไม่หลวมและไม่คับเกินไป
2. การสวมใส่: ควรสวมใส่หมวกนิรภัยอย่างถูกวิธีโดยปรับสายรัดให้พอดีเพื่อความปลอดภัยสูงสุด
3. การตรวจสอบ: ควรตรวจสอบหมวกนิรภัยอย่างสม่ำเสมอเพื่อหาความเสียหายหรือสัญญาณการเสื่อมสภาพ
4. การเปลี่ยน: ควรเปลี่ยนหมวกนิรภัยทันทีเมื่อเกิดความเสียหายหรือหลังจากเกิดการกระแทกหนัก